ต่อมไทรอยด์ (อังกฤษ: Thyroid gland) เป็นต่อมไร้ท่อที่อยู่ด้านหน้าของลำคอ โดยอยู่ด้านข้างและใต้ต่อกระดูกอ่อนไทรอยด์ (thyroid cartilage) และอยู่ลึกลงไปจากกล้ามเนื้อสเตอร์โนไฮออยด์ (sternohyoid) , สเตอร์โนไทรอยด์ (sternothyroid) และโอโมไฮออยด์ (omoyoid) ต่อมนี้มี 2 พู แผ่ออกทางด้านข้างและคลุมพื้นที่บริเวณด้านหน้าและด้านข้างของหลอดลม (trachea) รวมทั้งส่วนของกระดูกอ่อนคริคอยด์ (cricoid cartilage) และส่วนล่างของกระดูกอ่อนไทรอยด์ (thyroid cartilage) ทั้งสองพูนี้จะเชื่อมกันที่คอคอดไทรอยด์ (isthmus) ซึ่งอยู่ที่บริเวณด้านหน้าต่อกระดูกอ่อนของหลอดลม (trachea cartilage) ชิ้นที่สองหรือสาม
ต่อมไทรอยด์. จะทำหน้าที่จับไอโอดีนจากอาหารที่ทานเข้าไป แล้วนำไปรวมกับกรดอะมิโน Tyrosine เพื่อสร้างไทรอยด์ฮอร์โมน ส่งไปยังเซลล์เป้าหมาย (เช่น สมอง) ที่เซลล์เป้าหมายจะมีตัวรับสัญญาณจากไทรอยด์ฮอร์โมน เมื่อไทรอยด์ฮอร์โมนจับกับตัวรับสัญญาณที่เซลล์เป้าหมายแล้ว สัญญาณดังกล่าว จะกระตุ้นให้เซลล์นั้น สร้างโปรตีนหรือเอนไซม์ขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ต่าง ๆ เป็นต่อมที่ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้เสถียร ควบคุมการเจริญเติบโต และควบคุมเมตาบอลิซึมของร่างกาย เร่งกายหายใจ ควบคุมการเผาผลาญสารอาหารต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น เร่งการสลายไขมัน เร่งการสลายไกลโคเจน จึงมีผลต่อการสร้างพลังงาน และอุณหภูมิของร่างกาย ควบคุมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสมอง
สัญญาณเตือนไทยรอยด์ผิดปกติ
นพ.ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคไทรอยด์เป็นพิษมักพบในเพศหญิง มากกว่าเพศชาย เป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือดสูงกว่าปกติ เกิดจากต่อมไทรอยด์ทำงานมากขึ้น หรือเกิดจากร่างกายสร้างสารแอนติบอดี ไปกระตุ้นต่อมไทรอยด์ให้สร้างฮอร์โมนมากขึ้น หรือต่อมไทรอยด์อักเสบ หรือเกิดจากการได้รับฮอร์โมนไทรอยด์จากภายนอกเข้าสู่ร่างกายในขนาดที่มากเกินไป ซึ่งกรณีหลังนี้มักเกิดกับผู้ป่วยที่ได้รับยาฮอร์โมนไทรอยด์เพื่อรักษาภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ หรือใช้เพื่อการลดน้ำหนักตัวแบบไม่ถูกวิธี
"ฮอร์โมนไทรอยด์ เป็นฮอร์โมนสำคัญที่ช่วยควบคุมกระบวนการเผาผลาญ และการใช้พลังงานต่างๆ ภายในร่างกาย ถ้าร่างกายมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์สูงขึ้น จะทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญมากขึ้น เสมือนร่างกายทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้น้ำหนักตัวลดลง แม้จะรับประทานอาหารในปริมาณเท่าเดิมหรือน้ำหนักตัวไม่เพิ่มขึ้น ส่วนอาการของไทรอยด์เป็นพิษจะทำให้เกิด 1.อาการใจสั่น ชีพจรเต้นเร็ว 2.น้ำหนักตัวลดลง 3.มือสั่น 4.หงุดหงิดง่าย 5.ตาโปน ผมร่วง 6.ขี้ร้อน เหงื่อออกมาก 7.ถ่ายอุจจาระบ่อย บางครั้งอาจเกิดภาวะประจำเดือนผิดปกติ 8.บางรายอาจสังเกตเห็นต่อมไทรอยด์ที่อยู่บริเวณลำคอด้านหน้ามีขนาดโตขึ้น และ 9.ขาสองข้างอ่อนแรง จนถึงขั้นยกขาหรือยืนไม่ได้ ซึ่งพบได้ไม่บ่อย แต่อาจเป็นอาการแรกสุดที่เกิดขึ้นได้" นพ.ธีรพล กล่าว
นพ.ธีรพล กล่าวว่า หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง จะทำให้เกิดอาการกำเริบรุนแรง ส่งผลให้การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายแปรปรวนอย่างมาก จนเกิดอาการทางระบบประสาทสับสน เพ้อ เห็นภาพหลอน จำใครไม่ได้ รวมทั้งอาการหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ หัวใจหยุดเต้นชั่วขณะ และอาจทำให้หัวใจล้มเหลวได้ นอกจากนี้ ยังอาจพบอาการทางระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดอาการดีซ่าน ตับอักเสบ ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน การควบคุมอุณหภูมิร่างกายผิดปกติ ทำให้มีไข้สูง ชัก บางรายอาจเกิดภาวะไตวายเฉียบพลันได้ ทั้งนี้ การรักษาไทรอยด์ที่มีสาเหตุมาจากต่อมไทรอยด์ทำงานมากเองโดยทั่วไปทำได้ 3 วิธี คือ การใช้ยาชนิดรับประทานเพื่อควบคุมการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ให้ปกติ การกลืนแร่รังสีไอโอดีน และการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ อย่างไรก็ตาม โรคไทรอยด์เป็นพิษ เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ หากได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ดังนั้น การเป็นคนช่างสังเกต และใส่ใจสุขภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เมื่อมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาอย่างถูกต้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น